รีวิวหนัง Take Point (2018) : ภารกิจลับท้านรก
รีวิวหนัง Take Point (2018) : ภารกิจลับท้านรก เป็นภาพยนตร์แอ็กชัน-สงครามสายลับจากเกาหลีใต้ที่เปิดตัวในปี 2018 โดยผู้กำกับ Kim Byung-woo ซึ่งเคยมีชื่อเสียงจากผลงานระทึกขวัญทางการเมืองเรื่อง “The Terror Live” คราวนี้เขากลับมาสานต่อสไตล์การเล่าเรื่องที่เข้มข้น และพาผู้ชมดิ่งสู่ภารกิจที่เต็มไปด้วยแรงกดดันสูง ท่ามกลางบรรยากาศสงครามลับในพื้นที่ไร้ตัวตนระหว่างเกาหลีเหนือกับใต้
ภาพยนตร์เรื่องนี้เลือกใช้ภาษาอังกฤษเกือบตลอดทั้งเรื่อง เนื่องจากต้องการสร้างบรรยากาศของภารกิจนานาชาติ และเจาะตลาดสากล โดยมี Ha Jung-woo นักแสดงแถวหน้าของเกาหลีใต้ รับบทนำในบทบาทหัวหน้าหน่วย PMC (Private Military Company) ที่ต้องรับภารกิจนรกบนดิน ซึ่งเป็นการแสดงที่ต้องแบกรับทั้งภาระทางจิตใจและร่างกายท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองระดับโลก >> ดูหนังล่าสุด
เนื้อเรื่องย่อ
Take Point (2018) : ภารกิจลับท้านรก เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2024 ท่ามกลางความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี เมื่อ Ahab (รับบทโดย Ha Jung-woo) หัวหน้าหน่วย PMC ชาวเกาหลีใต้ได้รับภารกิจจาก CIA ให้ลักพาตัวผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือในขณะที่เขากำลังเดินทางมายังเขตปลอดทหารใต้ดินลึกกว่า 30 เมตรใต้พื้นโลก จุดนัดพบคือเขตชายแดนที่แทบไม่มีใครกล้าเหยียบย่าง ซึ่งเต็มไปด้วยอาวุธอัตโนมัติกับกลไกสังหารล้ำยุค และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที
เมื่อปฏิบัติการเริ่มต้น หน่วยของ Ahab เจออุปสรรคที่เกินคาด ไม่เพียงแต่พวกเขาต้องเผชิญกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่ไม่ทราบฝ่าย พวกเขายังต้องจัดการกับการหักหลัง ความสับสนของคำสั่งจากฝั่งอเมริกา และการควบคุมสถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่ผิดพลาด จุดพลิกผันที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อผู้นำเกาหลีเหนือได้รับบาดเจ็บสาหัส และ Ahab ต้องตัดสินใจว่าจะรักษาเขาไว้เป็นตัวประกันหรือฆ่าเพื่อยุติภารกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจาก CIA ที่มีเป้าหมายทางการเมืองซ้อนเร้น >> ดูหนังไม่มีโฆษณา
ในขณะที่สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อย ๆ Ahab ต้องนำทีมฝ่าทางออกจากใต้ดินที่ถูกล้อมไว้แน่นหนา พร้อมกับแบกความหวังของสงครามนิวเคลียร์ที่อาจปะทุขึ้นหากภารกิจล้มเหลว เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเอง การสูญเสีย และความกลัวอย่างสุดขีด ก่อนที่จะหาทางออกสุดท้ายที่อาจไม่ใช่ชัยชนะ แต่คือการเอาชีวิตรอดจากเกมการเมืองที่เขาไม่เคยเลือกเข้าร่วม
ดูหนัง Take Point (2018) : ภารกิจลับท้านรก
ตัวละคร
- Ahab (Ha Jung-woo): ทหารรับจ้างผู้นำทีมที่มีอดีตฝังใจจากการสูญเสียขาระหว่างปฏิบัติภารกิจในอดีต เขาเป็นผู้นำที่เยือกเย็น มีวินัยสูง แต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์ที่เปราะบางภายใน
- Mack (Jennifer Ehle): เจ้าหน้าที่ CIA ที่ควบคุมภารกิจจากระยะไกล เธอคือคนที่ให้คำสั่งโดยตรงกับ Ahab แต่ก็มีแรงกดดันจากเบื้องบนให้จบภารกิจไม่ว่าด้วยวิธีใด
- Yoon Ji-eui (Lee Sun-kyun): นายแพทย์ประจำทีมที่มีอุดมการณ์ต่อชีวิต แม้จะอยู่ในสนามรบ เขาพยายามรักษาผู้นำเกาหลีเหนือแทนที่จะปล่อยให้ตาย
- ผู้บัญชาการฝ่ายเกาหลีเหนือ: ตัวละครลึกลับที่ปรากฏขึ้นในช่วงกลางเรื่อง เพิ่มมิติด้านการเมือง และความไม่แน่นอนให้แก่เรื่องราว
ฉากแอ็กชันและการกำกับ
Kim Byung-woo เลือกกำกับฉากแอ็กชันในลักษณะสมจริงและกดดันมากกว่าจะเป็นการโชว์พลังแบบฮอลลีวูด ฉากปะทะในอุโมงค์ใต้ดินเต็มไปด้วยมุมกล้องแคบ แสงน้อย และเสียงระเบิดที่กดประสาทผู้ชม สร้างความรู้สึกอึดอัดเสมือนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริง ภาพยนตร์ยังใช้เทคนิคการถ่ายทำที่อิงกับการรายงานข่าวและกล้องวงจรปิด สร้างความรู้สึกเฝ้าสังเกตและไม่แน่นอนตลอดเวลา
แม้จะมีข้อจำกัดในฉากภายนอก แต่การออกแบบฉากในพื้นที่จำกัดอย่างอุโมงค์หรือห้องบัญชาการกลับทำได้ดี สื่อถึงความเป็นสงครามจิตวิทยาที่ใช้คำสั่ง การสื่อสาร และความไม่ไว้ใจกันเป็นอาวุธหลักมากกว่ากระสุนปืน >> เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี
จุดเด่นของภาพยนตร์
- ความกดดันในบรรยากาศใต้ดินและการสื่อสารที่ทำให้รู้สึกเหมือนเวลาเดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
- การแสดงของ Ha Jung-woo ที่แสดงทั้งความแข็งแกร่งภายนอกและความเปราะบางภายในได้อย่างลึกซึ้ง
- ประเด็นการเมืองระหว่างประเทศที่ซ้อนอยู่ภายใต้ภารกิจแอ็กชัน ทำให้หนังมีหลายชั้นความหมาย
จุดที่อาจมีข้อสังเกต
- ภาษาอังกฤษที่ใช้ทั้งเรื่อง แม้มีเหตุผลรองรับ แต่ก็อาจลดความเป็นธรรมชาติของการแสดงในบางช่วง
- โครงเรื่องส่วนหลังมีจังหวะที่ยืดและวนซ้ำในประเด็นเดิม ทำให้เสียแรงดึงดูดจากต้นเรื่องที่เข้มข้น
- ตัวละครสมทบหลายตัวไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ แม้จะมีศักยภาพในทางบท
สรุป
“Take Point” เป็นภาพยนตร์แอ็กชันที่พยายามฉีกกรอบจากสูตรเดิมของหนังสงครามด้วยการเล่าเรื่องที่เน้นจิตวิทยาและการตัดสินใจภายใต้แรงกดดันสูง มันไม่ใช่หนังบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว แต่แฝงด้วยประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ความเชื่อใจ และความหมายของการเป็นผู้นำ ในขณะที่อาจมีข้อบกพร่องในด้านจังหวะและบทสนทนา แต่โดยรวมแล้ว “Take Point” คือประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่ให้ทั้งความระทึกและความคิดไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชอบหนังแอ็กชันที่มีชั้นเชิงมากกว่าความมันส์เพียงผิวเผิน
ดูหนังใหม่ล่าสุด | ดูหนังฟรีไม่มีโฆษณา | เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี | ดูหนังไทย | ดูหนังฝรั่ง | ดูซีรี่ย์ | ดูหนังพากย์ไทย |