รีวิวหนัง They Cloned Tyrone (2023) : โคลนนิ่งลวง ลับ ล่อ

They Cloned Tyrone (2023)

รีวิวหนัง They Cloned Tyrone (2023) : โคลนนิ่งลวง ลับ ล่อ

They Cloned Tyrone (2023)

รีวิวหนัง They Cloned Tyrone (2023) : โคลนนิ่งลวง ลับ ล่อ คือภาพยนตร์แนวไซไฟ-คอเมดี้-ลึกลับ ที่ผสมผสานระหว่างทฤษฎีสมคบคิด วัฒนธรรมผิวดำ และสไตล์บลูส์ย้อนยุคเข้าด้วยกันได้อย่างเหนือชั้น ผลงานชิ้นนี้เป็นการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวครั้งแรกของ Juel Taylor ซึ่งกล้าหยิบธีมหนักๆ อย่างการควบคุมทางสังคม การล่าอาณานิคมทางชีววิทยา และการเมืองเรื่องเชื้อชาติมานำเสนอในรูปแบบที่บันเทิงและชวนหัวเราะ ในขณะที่ยังคงตั้งคำถามต่อระบบอำนาจในระดับโครงสร้างได้อย่างแสบสัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย John Boyega, Jamie Foxx และ Teyonah Parris ที่ต่างถ่ายทอดบทบาทของตนได้อย่างเฉียบคม ด้วยพล็อตเรื่องที่เต็มไปด้วยความตลกร้าย จังหวะการดำเนินเรื่องที่ไม่เหมือนใคร และฉากที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังยุค 70s แต่ประเด็นที่กล่าวถึงกลับร่วมสมัย “They Cloned Tyrone” คือหนึ่งในหนังที่ท้าทายขอบเขตของแนวภาพยนตร์แบบเดิมๆ อย่างแท้จริง >> ดูหนังล่าสุด

They Cloned Tyrone (2023)

เนื้อเรื่องย่อ

They Cloned Tyrone (2023) : โคลนนิ่งลวง ลับ ล่อ เรื่องราวเริ่มขึ้นในย่านชุมชนแออัดแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “The Glen” ซึ่งมีปัญหาสังคมสะสมมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด ความรุนแรง และการขาดโอกาส Fontaine (รับบทโดย John Boyega) เป็นพ่อค้ายารุ่นใหม่ที่ดูเหมือนจะรับสภาพของสังคมไปวันๆ แต่ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อเขาถูกยิงเสียชีวิตโดยพ่อค้ายาคู่แข่ง…แล้วตื่นขึ้นมาในวันถัดไปโดยไม่มีใครในละแวกจำได้ว่าเขาตายแล้วด้วยซ้ำ

Fontaine เริ่มสงสัยในความผิดปกติที่เกิดขึ้น จึงร่วมมือกับ Slick Charles (Jamie Foxx) แมงดาจอมป่วนจอมขี้โม้ และ Yo-Yo (Teyonah Parris) โสเภณีสาวที่เฉลียวฉลาดเกินคาด ทั้งสามเริ่มสืบสวนไปยังจุดเริ่มต้นของความแปลกประหลาด จนนำไปสู่การค้นพบว่าเบื้องหลังชุมชนที่พวกเขาอยู่นั้น มีองค์กรลึกลับทำการทดลองควบคุมประชากรผ่านอาหาร เพลง และแม้แต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คนในชุมชนใช้กันทุกวัน และสิ่งที่เลวร้ายกว่าคือ พวกเขากำลังโคลนนิ่งมนุษย์เพื่อทดแทนคนที่ถูกกำจัดออกไปจากระบบ >> ดูหนังไม่มีโฆษณา

ทั้งสามต้องหาทางเปิดโปงแผนการชั่วร้ายนี้ให้ได้ โดยต้องต่อสู้กับกองกำลังลับ เทคโนโลยีล้ำยุค และระบบที่ซับซ้อนเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ ความฮา เสียดสี และการหักมุมดำเนินไปพร้อมกันตลอดทาง โดยมีฉากจบที่ทั้งพลิกผันและตั้งคำถามต่อผู้ชมว่า “เรากำลังถูกควบคุมอยู่หรือไม่ และใครคือผู้ควบคุมตัวจริง?”

ดูหนัง They Cloned Tyrone (2023) : โคลนนิ่งลวง ลับ ล่อ

They Cloned Tyrone (2023)

ตัวละคร

  • Fontaine (John Boyega): พ่อค้ายาสุดเงียบขรึม ผู้กลายมาเป็นหัวใจของการต่อต้านองค์กรลับ เขาคือภาพแทนของชายผิวดำที่พยายามเข้าใจว่าตนเองมีอิสระหรือเป็นเพียงหมากในกระดาน
  • Slick Charles (Jamie Foxx): แมงดาจอมขี้โม้ที่กลายมาเป็นฮีโร่จำเป็น มีบทบาทเป็นตัวตลกแต่แฝงด้วยความเฉียบแหลม Foxx แสดงบทนี้ได้อย่างมีชีวิตชีวาและขโมยซีนแทบทุกฉาก
  • Yo-Yo (Teyonah Parris): โสเภณีผู้เฉลียวฉลาด มีบทบาทเป็นนักสืบสายลุย เธอคือแรงผลักดันหลักในการสืบหาความจริง และเป็นตัวแทนของหญิงสาวที่ไม่ยอมถูกระบบกดขี่
  • ผู้ควบคุม (Kiefer Sutherland): ตัวร้ายลึกลับที่ค่อยๆ เปิดเผยว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทดลองทั้งหมด สะท้อนภาพของอำนาจขาวในโลกที่ยังมีโครงสร้างการเหยียดเชื้อชาติแฝงอยู่

ฉากแอ็กชันและการกำกับ

แม้จะไม่ใช่หนังแอ็กชันจ๋า แต่ “They Cloned Tyrone” ก็มีฉากแอ็กชันที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงไคลแมกซ์ที่ตัวละครต้องบุกเข้าไปยังฐานลับใต้ดิน การต่อสู้ถูกออกแบบให้มีอารมณ์ขันและความลื่นไหลที่สอดคล้องกับโทนของหนังโดยรวม เทคนิคการถ่ายทำแบบใช้แสงนีออน มุมกล้องย้อนยุค และการออกแบบฉากให้เหมือนหลุดออกมาจากโลกแฟนตาซีของเมืองจริง ทำให้ภาพยนตร์มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Juel Taylor แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการคุมโทนเรื่องที่หลากหลายได้อย่างกลมกลืน เขาสามารถผสานความเป็นไซไฟ ทฤษฎีสมคบคิด และดราม่าทางสังคมเข้าไว้ในโครงเรื่องเดียวกัน โดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกสับสน การล้อเลียนวัฒนธรรมป๊อป ความเชื่อ และค่านิยมอเมริกันถูกนำเสนออย่างเฉียบคม พร้อมทั้งซาวด์แทร็กที่เลือกมาได้อย่างลงตัว >> เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี

They Cloned Tyrone (2023)

จุดเด่นของภาพยนตร์

  • บทภาพยนตร์ที่เฉียบแหลม ผสมผสานความตลกร้ายกับประเด็นทางสังคมได้อย่างลึกซึ้ง
  • การแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ Jamie Foxx ที่มีเสน่ห์และขโมยซีนทุกครั้งที่ปรากฏตัว
  • การออกแบบงานสร้างและมู้ดแอนด์โทนที่สะท้อนวัฒนธรรมย้อนยุคผสมไซไฟอย่างลงตัว
  • ประเด็นเชิงโครงสร้างอำนาจ การเหยียดผิว และการตั้งคำถามต่อโลกจริงที่กระทบใจ

จุดที่อาจมีข้อสังเกต

  • บางช่วงของเรื่องมีจังหวะที่เนิบ และใช้บทสนทนาเชิงปรัชญาหนักเกินไปสำหรับผู้ชมทั่วไป
  • โครงเรื่องในช่วงท้ายอาจดูคลี่คลายแบบง่ายเกินไป เมื่อเทียบกับความซับซ้อนที่ปูไว้ในตอนต้น
  • ประเด็นบางอย่าง เช่น การโคลนนิ่ง หรือการควบคุมจิตใจ ยังไม่ได้ถูกขยายให้ถึงที่สุด

>> ดูหนังออนไลน์

สรุป

“They Cloned Tyrone” คือหนังไซไฟ-คอเมดี้-เสียดสี ที่ไม่เหมือนใครในปี 2023 มันทั้งบันเทิง เข้มข้น และเต็มไปด้วยชั้นความหมาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ชมที่ชอบงานที่ตั้งคำถามต่อสังคม โครงสร้างอำนาจ และการเมืองเชื้อชาติ แม้จะไม่ใช่หนังที่ดูง่าย แต่สำหรับคนที่เปิดใจและให้เวลากับมัน หนังเรื่องนี้คือประสบการณ์ที่สดใหม่และคุ้มค่า เป็นหนึ่งในผลงานที่สะท้อนว่า ภาพยนตร์ไม่จำเป็นต้องเลือกข้างระหว่างความบันเทิงกับความลึกซึ้ง เพราะมันสามารถเป็นทั้งสองได้พร้อมกันอย่างลงตัว

ดูหนังใหม่ล่าสุด | ดูหนังฟรีไม่มีโฆษณา | เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี | ดูหนังไทย | ดูหนังฝรั่ง | ดูซีรี่ย์ | ดูหนังพากย์ไทย |

LOADING
ค้นหา