รีวิวหนังเรื่อง The Batman (2022) : เดอะ แบทแมน
รีวิวหนังเรื่อง The Batman (2022) : เดอะ แบทแมน คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่แฟนๆ ของแบทแมนต่างรอคอยอย่างมากมายในปี 2022 หลังจากที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชันของแบทแมนที่ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ทั้งในแง่ของโทนสี แนวทางการเล่าเรื่อง และการแสดงของนักแสดงนำ โรเบิร์ต แพตตินสัน ซึ่งเป็นการรับบทบาทเป็นแบทแมนครั้งแรกในชีวิต ในบทความนี้ เราจะมาลองเจาะลึกในรายละเอียดของหนังเรื่องนี้กัน
แนวทางและบรรยากาศในภาพยนตร์
The Batman (2022) : เดอะ แบทแมน ถือเป็นการนำเสนอแบทแมนในมุมมองที่แตกต่างจากเวอร์ชันอื่นๆ ที่เคยมีมาก่อน ด้วยการเลือกโทนภาพที่มืดและลึกลับ สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับเรื่องราวที่มุ่งเน้นไปที่ความซับซ้อนของเมืองก็อตแธม (Gotham City) และความเปราะบางของตัวแบทแมนเอง โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นไปที่การแสดงออกของพลังพิเศษหรือความสามารถที่เหนือมนุษย์เหมือนในหนังเรื่องอื่นๆ แต่กลับเน้นไปที่การนำเสนอแบทแมนในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับความมืดมิดในตัวเองและสังคมรอบข้าง >> ดูหนังใหม่ล่าสุด
บทบาทของแบทแมนและตัวละครหลัก
โรเบิร์ต แพตตินสันในบทบาทของแบทแมน/บรูซ เวย์น ถือเป็นการตีความตัวละครที่มีความลึกซึ้งและน่าประทับใจ แบทแมนในเวอร์ชันนี้ไม่ใช่แค่ฮีโร่ที่ต่อสู้กับอาชญากรรม แต่ยังเป็นบุคคลที่มีความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียพ่อแม่ และต้องรับมือกับความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ นอกจากนี้ยังมีการแสดงออกที่ทำให้แบทแมนดูเหมือน “มนุษย์” มากกว่าฮีโร่ ซึ่งน่าสนใจมาก
ขณะที่ตัวละครอื่นๆ เช่น ริดเลอร์ (The Riddler) ที่รับบทโดย พอล ดาโน ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของภาพยนตร์นี้ ตัวริดเลอร์ในเวอร์ชันนี้ถูกตีความเป็นผู้ที่มีปัญหาทางจิตและมีความอาฆาตแค้นต่อสังคม และสิ่งนี้ทำให้เขากลายเป็นตัวร้ายที่น่ากลัวมากขึ้น อีกทั้งยังมีคาแรคเตอร์ของคาตาวอมาน (Catwoman) ที่รับบทโดย ซอว์น่า เคิร์ก ซึ่งมาพร้อมกับเรื่องราวที่ทับซ้อนกับตัวแบทแมน และพัฒนาไปอย่างน่าสนใจในช่วงของเรื่อง
เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและน่าสนใจ
เนื้อเรื่องของ “The Batman” ถูกออกแบบมาให้มีความซับซ้อนและเป็นไปในทิศทางที่ไม่เหมือนใคร หนังไม่ใช่แค่เรื่องของการตามล่าจับอาชญากร แต่กลับเป็นการค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของบิดาของบรูซ เวย์น ซึ่งเชื่อมโยงกับการปราบปรามความผิดปกติในเมืองก็อตแธม การเล่าเรื่องในลักษณะนี้ทำให้ภาพยนตร์ดึงดูดผู้ชมได้อย่างดี เพราะมันไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างดีและร้าย แต่ยังเป็นการสำรวจจิตใจและความเชื่อของตัวละครต่างๆ ที่ทับซ้อนกัน >> ดูหนังฟรีไม่มีโฆษณา
การกำกับและการถ่ายทำ
แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) ในฐานะผู้กำกับของ “The Batman” ทำให้ภาพยนตร์มีความแตกต่างจากเวอร์ชันอื่นๆ ที่เคยมีมาก่อน การกำกับของเขามีความเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกพาตัวเข้าสู่โลกมืดและลึกลับของเมืองก็อตแธมอย่างแท้จริง การใช้กล้องในบางฉากเพื่อสร้างบรรยากาศที่คับแคบและเคร่งเครียดช่วยเพิ่มความตึงเครียดในการดู และที่สำคัญคือการใช้การถ่ายทำในลักษณะของหนังสืบสวนสอบสวนที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังติดตามคดีฆาตกรรมจริงๆ
องค์ประกอบด้านดนตรีและเสียง
เพลงประกอบของภาพยนตร์ “The Batman” ที่สร้างโดย ไมเคิล จาคิโน (Michael Giacchino) เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่เสริมสร้างอารมณ์ของภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม เพลงประกอบได้ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความดาร์กของหนังได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะเพลงหลักที่มีความรู้สึกเศร้าและหนักหน่วง ซึ่งทำให้การรับชมภาพยนตร์มีความประทับใจและพาไปสู่ความลึกซึ้งของตัวละคร >> เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี
ข้อดีและข้อเสียของหนัง
ข้อดี:
- การแสดงของโรเบิร์ต แพตตินสันทำให้แบทแมนในเวอร์ชันนี้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
- บรรยากาศที่มืดมนและลึกลับช่วยเสริมความตึงเครียดให้กับหนัง
- เนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและคดีสืบสวนที่น่าสนใจ
ข้อเสีย:
- สำหรับบางคนที่คาดหวังภาพยนตร์แอ็กชันแบบเต็มรูปแบบ อาจจะรู้สึกว่า “The Batman” เน้นไปที่การเล่าเรื่องมากเกินไป
- บางฉากอาจจะดูยืดยาวไปบ้าง โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ของหนัง
บทสรุป
“The Batman” (2022) คือภาพยนตร์ที่มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับแฟนๆ ของแบทแมน โดยการผสมผสานระหว่างความลึกลับและการสืบสวน พร้อมกับการเน้นไปที่ตัวละครที่มีความลึกซึ้ง การแสดงที่ยอดเยี่ยมของโรเบิร์ต แพตตินสันและตัวละครอื่นๆ ช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าจดจำ และเป็นการตีความใหม่ที่น่าสนใจของหนึ่งในฮีโร่ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ถ้าคุณเป็นแฟนหนังแนวสืบสวนหรือชื่นชอบแบทแมนในรูปแบบใหม่ๆ “The Batman” จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง